เป็นเรื่องธรรมดาในธุรกิจที่ยอดขายจะไม่เป็นไปตามที่เราหวังไว้ แต่เจ้าของธุรกิจอย่างเราจำเป็นจะต้องหาสาเหตุให้ได้ว่า เพราะ อะไรยอดขายถึงตก เพื่อหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในมุมมองของผม ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขายนั้นมีหลายอย่างมาก แต่หลัก ๆ ผมขอแบ่งเป็น 2 แบบ
- แก้ไขได้ระยะสั้น (ไม่เกิน 1-3 เดือน)
- แก้ไขได้ระยะยาว
ซึ่งในบทความนี้ ผมจะพูดเฉพาะปัจจัยที่แก้ไขได้ในระยะสั้น เพื่อให้คุณลองเช็คดูว่า สิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้ดีแล้วหรือยัง ถ้าคุณแก้ไขปัญหาระยะสั้นหมดแล้ว ก็ค่อยไปดูปัจจัยที่แก้ได้ในระยะยาวต่อไป
การจะเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจนั้น จริง ๆ แล้วไม่มีสูตรสำเร็จ แต่สิ่งที่ผมนำมาแบ่งปันต่อไปนี้จะช่วยเป็นแนวทางให้คุณนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณแบบเร็วที่สุดได้
อยากเพิ่มยอดขาย ให้คุณลองปรับ 3 อย่างต่อไปนี้
1.ตีโจทย์ธุรกิจของคุณให้แตก
1.1 ลูกค้าของคุณคือใคร
เวลาเจ้าของธุรกิจทำธุรกิจไปสักพักนึง เป็นไปได้ที่เราอาจจะลืมไปว่า สินค้าของเรานั้นขายให้กับใคร คำว่า ขายให้กับใครที่ผมหมายถึง คือการตีโจทย์ให้แตกว่า ใครคือลูกค้าของเราจริง ๆ
เพราะในหลาย ๆ ครั้ง เราอาจจะคิดเองว่า ลูกค้าเราคือ กลุ่มนี้ แต่ความเป็นจริง กลับไม่ใช่
ยกตัวอย่าง ธุรกิจสุขภาพของผม ในตอนแรก ผมคิดว่าลูกค้าของผม คือ กลุ่มผู้ป่วย แต่พอทำไปได้สักพัก กลุ่มลูกค้าที่แท้จริง (คนจ่ายเงิน) คือ ญาติผู้ป่วย
ในเรื่องนี้ ถ้าคุณเช็คแล้วว่าสินค้าคุณดี เป็นที่ต้องการแน่ ๆ แต่ยอดขายตก (หรือยังขายไม่ได้) ให้คุณลองกลับมาเช็คที่กลุ่มลูกค้าที่แท้จริงอีกครั้ง
1.2 สินค้าของคุณตอบโจทย์อะไร
เมื่อคุณเข้าใจว่าคุณกำลังขายให้ใคร สิ่งที่คุณต้องทำต่อก็คือ แล้วสินค้าที่คุณขายนั้นตอบโจทย์ลูกค้าเหล่านั้นหรือไม่
เพราะ ในบางครั้งเจ้าของธุรกิจ ก็อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่า สินค้าของตัวเองนั้น ตอบโจทย์ลูกค้าแน่อน ซึ่งคุณต้องเช็คให้ดี
ผมมีแนวคิดที่จะช่วยให้คุณตีโจทย์สินค้าแตกได้ง่ายขึ้นมาให้ครับ
จริงๆ แล้ว คนทั่วไปไม่ได้ซื้อสว่าน เพราะเขาอยากได้สว่าน แต่เขาอยากได้รูต่างหาก
Theodore Levitt นักเศรษฐศาสต์และอาจารย์ที่ Harvard Business School
เรื่องนี้เป็นกับดักให้กับเจ้าของธุรกิจหลาย ๆ คน ที่ตีโจทย์ ความต้องการของลูกค้าและสินค้าของตัวเองไม่ออก ถ้าคุณเข้าใจความหมายของประโยคนี้จะเห็นได้ชัดว่า จริง ๆ แล้วมีหลายทางเลือกที่ลูกค้าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
ไม่ว่าสินค้าของคุณจะเป็นอะไร นี่คือ ปัจจัยที่ลูกค้าคุณใช้ตัดสินใจซื้อครับ
6 ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ
- เวลา : สิ่งนั้นช่วยทำให้เขาได้ผลลัพธ์เร็วขึ้นหรือเปล่า
- เงิน : สิ่งนั้นทำให้เขาได้ผลลัพธ์โดยใช้เงินน้อยกว่าไหม
- แรงกาย : สิ่งนั้นทำให้เขาได้ผลลัพธ์โดยออกแรงน้อยลงไหม
- พลังสมอง : สิ่งนั้นทำให้เขาได้ผลลัพธ์โดยไม่ต้องคิดเยอะไหม
- การยอมรับทางสังคม : สิ่งนั้นทำให้ผู้คนยอมรับในตัวเขาไหม
- กิจวัตร : สิ่งนั้นทำให้เขาได้ผลลัพธ์โดยไม่เปลี่ยนกิจวัตรมากไหม
หมายเหตุ : 6 ปัจจัยนี้มาจาก Fogg’s six elements of simplicity ในหนังสือ Hooked ครับ
2.สื่อสารให้ตรงใจลูกค้า
เมื่อผ่านข้อที่ 1 มาได้แล้ว หากสินค้าของคุณสอบผ่าน เรามาต่อในข้อที่ 2 กันเลย นั่นก็คือ การสื่อสาร ซึ่งการสื่อสารนี้ผมจะแนะนำคุณ 2 อย่าง
2.1 การทำโฆษณาบนออนไลน์
สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ การทำโฆษณา ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เกิดยอดขายได้ เพราะ ถ้าจะขายของ แบบ Organic นั้น ยุคนี้ยากมาก ดังนั้น คุณควรจะทำโฆษณาบน Platform ออนไลน์ให้เป็น
เช่น Facebook, IG, Google, Line, Shopee, Lazada ฯลฯ
หลักในการทำโฆษณานั้น คือ การนำโจทย์ที่คุณตีจนแตกแล้วในข้อที่ 1 มาสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของคุณ ซึ่งผมจะไม่ได้ลงรายละเอียดในบทความนี้
ถ้าคุณตีโจทย์สินค้าของคุณแตก เข้าใจความต้องการของลูกค้า และทำโฆษณาเพื่อสื่อสารได้ตรงกลุ่มกับลูกค้าของคุณแล้วล่ะก็ นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มยอดขายแล้วล่ะครับ
2.2 การทำโฆษณาแบบ Retargeting
จากข้อ 2.1 นั้น การโฆษณาอย่างเดียวอาจยังไม่พอ เพราะ ลูกค้าอาจจะยังไม่ได้รับข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจได้ ดังนั้น ธุรกิจของคุณจำเป็นจะต้องทำการโฆษณาซ้ำกับกลุ่มลูกค้าที่สนใจสินค้าของคุณ
ในโลกออนไลน์นั้น ไม่ว่าสินค้าหรือธุรกิจของคุณจะเป็นอะไร การทำ Retargeting เป็นปัจจัยสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้ยอดขายของคุณเติบโต ดังนั้นผมแนะนำให้คุณทำเป็นอย่างยิ่งครับ
3.เข้าใจเรื่องกรวยการขาย (Sales Funnel)
เมื่อผ่าน 2 ข้อมาแล้ว เรื่องสุดท้ายที่เจ้าของธุรกิจอย่างเรา ๆ จะทำได้ทันที คือ การเช็ค Sales Funnel ของธุรกิจเรา เพื่อที่เราจะได้ปรับกลยุทธ์ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เพราะ ในหลาย ๆ ครั้ง ที่เราขายไม่ดี อาจไม่ใช่เพราะ โฆษณาของเราไม่ดี แต่เป็นการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายนั้นต่างหากที่เป็นปัญหา
หรือ ในหลาย ๆ ครั้ง โฆษณาดีมาก แต่เราต้องเปลี่ยนคนเหล่านั้นให้เป็นลูกค้าของเรา เพียงเท่านี้ยอดขายธุรกิจคุณก็จะเพิ่มขึ้นได้ไม่ยากเลยครับ
สรุป
- รู้ 3 ปัจจัยที่คุณสามารถปรับได้ทันที ถ้าต้องการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจแบบเร็วที่สุด
- สิ่งแรกที่คุณทำได้ คือ การตีโจทย์ธุรกิจที่ตัวเองทำ ให้แตกก่อน
- ต่อมาคือ การสื่อสารให้ตรงใจกับลูกค้า และที่สำคัญอย่าลืมทำ Retargeting
- สุดท้าย เช็คกรวยการขายเพื่อสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าในแต่ละระดับ
- หลายครั้งที่ยอดตก ไม่ใช่เพราะ โฆษณาไม่ดี แต่เป็นเพราะ คุณไม่ได้เปลี่ยนให้พวกเขามาเป็นลูกค้าของคุณต่างหาก
ถ้าคุณอยากรู้วิธีการสร้างลูกค้าจากออนไลน์ด้วยกรวยการขายและการทำโฆษณาให้ได้ผล ผมมีคอร์สฟรีให้คุณครับ
ถ้าคุณต้องการเรียนรู้วิธีการเขียนขายให้ทำเงิน ไม่ว่าคุณจะเขียนโพสต์ขายเพื่อยิงแอด เขียนขายให้กับลูกค้าของคุณ เขียนขายบนเซลล์เพจ หรือ แม้แต่เขียนขายบน Marketplace หนังสืออีบุ๊คเล่มนี้มีคำตอบให้กับคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม กดที่นี่ได้เลยครับ