การขายออนไลน์ในปัจจุบัน คอนเทนต์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าคุณอยากจะได้ขายดี มียอดขายที่เติบโต ผมเข้าใจดีครับว่า คอนเทนต์ขายนั้นจำเป็นมาก บทความนี้ผมจะพาคุณมาเรียนรู้ 4 เทคนิคเด็ด เขียน “คอนเทนต์ขาย”ให้ดึงดูดลูกค้าของคุณ กันครับ
เทคนิคที่ 1 : วิธีคิดของที่จะทำให้คอนเทนต์ขายของคุณทรงพลัง
“วิธีคิดผ่าน วิธีการจะมาเอง”
ในเทคนิคที่ 1 นี้ ผมอยากให้คุณเข้าใจก่อนว่า การเขียนคอนเทนต์ขาย (หรือโพสต์ขาย) คือ การสร้างนักขายที่จะออกไปขายสินค้าแทนคุณครับ และที่สำคัญนั้น ในโลกออนไลน์ นักขายคนนี้สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง 7 วัน แบบไม่มีวันหยุดเลย ดังนั้น การทำคอนเทนต์ขายขึ้นมาสักอันนั้น ต้องตั้งใจทำ ทำให้ดีครับ เพราะ ถ้าคุณทำมันได้ดี ผมรับประกันได้เลยว่า คุณจะขายดีขึ้นแน่นอน ไม่ว่าสินค้าคุณจะเป็นอะไรก็ตาม ศาสตร์การเขียนขายนั้นใช้ได้หมด
คอนเทนต์ขายของคุณต้องทำให้ครบ 4 อย่างนี้
1.ดึงดูดความสนใจ : เพื่อให้คนมาอ่านสิ่งที่คุณกำลังจะเสนอให้กับลูกค้า ถ้าคอนเทนต์ของคุณดึงดูดให้คนมาอ่าน มาสนใจไม่ได้ ไม่มีทางที่คุณจะมีลูกค้าครับ (หรือ ถ้ามีก็จะน้อยมาก)
2.สื่อสารกับผู้อ่าน : ผู้อ่านหรือผู้ชมที่สนใจคอนเทนต์ของคุณ คือ คนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้หมด ดังนั้น อย่าให้โอกาสหลุดลอยไป เมื่อคุณดึงดูดความสนใจของเขาได้แล้ว คุณต้องสื่อสารกับเขาให้รู้เรื่องครับ
3.จูงใจหรือโน้มน้าวใจ : ขั้นตอนนี้ คือ ขั้นตอนที่คุณกำลังจะเตรียมขายสินค้าให้กับผู้อ่าน ถ้าทำได้ดีลูกค้าของจะหลั่งไหลเข้ามาซื้อสินค้าของคุณและลืมสินค้าของคู่แข่งไปเลย ถ้าทำได้ไม่ดี ก็ยังมีคนซื้อครับ แต่อาจจะไม่มากเท่าที่คุณต้องการ และนี่คือ 1 ในเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ขายไม่ได้ ขายไม่ดี หรือ ทำให้ค่าโฆษณาแพงครับ
4.ปิดการขาย : ถ้าคุณทำ 3 ข้อแรกมาได้เป็นอย่างดี ผมบอกได้เลยว่า คุณจะปิดการขายได้ง่ายมาก จริง ๆ แล้วขึ้นตอนนี้ไม่มีอะไรมากครับ เพียงแค่คุณถามว่าที่ลูกค้าของคุณว่า จะรับสินค้าของคุณไหม ถ้ารับให้เขาทำอะไรบ้าง
ในเทคนิคที่ 1 นี้ เราได้รู้แล้วว่า การเขียนคอนเทนต์ขายนั้น ต้องคิดยังไงบ้าง เทคนิคต่อไป ผมจะลงรายละเอียดในแต่ละข้อให้คุณได้รู้ครับ อ่านจบแล้วคุณจะได้เอาไปลองเขียนคอนเทนต์ขายของคุณได้เลย
เทคนิคที่ 2 : วิธีฮุคเพื่อดึงดูดให้คนอ่านสิ่งที่คุณจะขาย (Hook)
10 คำแรกที่ออกจากปาก สำคัญกว่า 10,000 คำถัดจากนั้น
– Claude C. Hopkins ผู้เขียน Scientific Advertising –
2 สิ่งที่จะทำให้ผู้คนสนใจมาอ่านคอนเทนต์ขายของเรา
1.การใช้ภาพ : การเลือกใช้ภาพสื่อความหมายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำคุณจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ เพราะ สมองมนุษย์นั้น สามารถตีความภาพที่เห็นได้เร็วมาก (โดยเฉพาะ เมื่อเห็นมนุษย์ด้วยกันเอง) คุณเคยได้ยินคำพูดนี้ไหมครับที่ว่า…ภาพ 1 ภาพ สามารถแทนคำพูดได้เป็นพันคำ ถ้าคุณเลือกภาพที่สื่อความหมายได้ดี ผมรับรองว่า คอนเทนต์ขายของคุณจะดึงดูดให้คนมาสนใจได้มากแน่นอนครับ
2.การพาดหัว : จริงอยู่ที่ภาพ 1 ภาพ สามารถแทนคำพูดได้เป็นพันคำ และดูเหมือนจะสำคัญกว่าตัวอักษรอย่างพาดหัว แต่ถ้าไม่มีการพาดหัว คนจะไม่รู้เลยครับว่า สิ่งที่เราต้องการจะสื่อนั้นคืออะไร และจะตีความได้หลากหลายมาก ๆ ถ้าไม่มีพาดหัวคอยกำกับเอาไว้ นี่แหละครับ คือ ความสำคัญของการพาดหัว นั่นเป็นเหตุผลที่ นักการตลาดโฆษณาระดับตำนานหลาย ๆ ท่าน ถึงย้ำนักย้ำหนา ถึงเรื่องนี้ เพราะ มันสำคัญมากจริง ๆ
ผู้คนจะอ่านพาดหัวก่อนถึง 80% หรือคิดเป็น 5 เท่า
ก่อนที่เขาจะอ่านสิ่งที่คุณอยากจะสื่อสารกับเขาจริง ๆ– David Ogilvy นักการตลาดโฆษณาระดับตำนาน –
ผู้คนไม่สนใจหรอกครับว่าคุณอยากจะบอกอะไรกับเขา พวกเขาสนใจเพียงว่า “ฉันจะได้อะไรจากสิ่งนี้” ดังนั้น ถ้าผลลัพธ์ของคุณยังไม่ดี ลองเปลี่ยนวิธีคิดมาเป็นแบบนี้ดูนะครับ
การพาดหัวที่ดี จะเป็นตัวบอกผู้อ่านว่า “หยุดทำบางอย่างสักครู่ ในนี้มีอะไรบางอย่างที่คุณจะต้องสนใจ !!”
พาดหัวที่ดีต้องทำได้ครบ 4 ข้อนี้
1.ดึงดูดความสนใจ : อย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว ถ้าไม่มีการพาดหัว ผู้อ่านจะตีความภาพไปได้หลากหลาย จนทำให้ไม่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารกับเขา ถ้าคุณอยากดึงดูดให้คนมาสนใจสินค้าที่คุณกำลังขายอยู่ คุณจึงต้องมีพาดหัวที่ดี
2.คัดกรองผู้อ่าน/ผู้ชม : ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะ สินค้าของคุณคงไม่สามารถตอบโจทย์ได้กับลูกค้าทุกคน มีคำกล่าวว่า “ถ้าคุณพยายามจะเป็นทุกอย่างให้ทุกคน นั่นเท่ากับคุณไม่เป็นอะไรให้กับใครเลย” ดังนั้น การเขียนพาดหัวคุณควรมีการคัดกรองผู้อ่านให้ตรงกับสินค้าที่คุณต้องการจะตอบโจทย์เขามากที่สุดครับ (ยิ่งพาดหัวได้ดี จะยิ่งคัดกรองลูกค้าได้ดี และจะทำให้คุณประหยัดเวลาและเงินมาก)
3.บอกผู้อ่านว่าเขาจะได้อะไร : ผู้คนสนใจว่า เขาจะได้อะไร มากกว่า คุณอยากจะพูดอะไร ดังนั้น คุณต้องเขียนพาดหัวให้เกี่ยวกับผู้อ่านให้ได้มากที่สุด
4.พาผู้อ่านไปยังส่วนที่เหลือ : พาดหัวเป็นแค่ด่านแรก แต่สำคัญมาก ที่จะพาผู้อ่านไปรู้จักสรรพคุณ และประโยชน์ ของสินค้าของคุณ ถ้าคุณทำ 10 คำแรก (ซึ่งก็คือพาดหัว) ได้ดี อีก 10,000 คำที่เหลือ คุณอยากจะบอกอะไร ก็ง่ายขึ้นแล้วครับ
เทคนิคที่ 3 : เล่าสินค้าที่จะขายยังไงให้ได้ใจลูกค้า (Story)
Harvard Business Review เคยทำการวิจัยเกี่ยวกับการเขียนโฆษณาเพื่อขายสินค้าเอาไว้ว่า เนื้อหาแบบไหนได้ผลลัพธ์ดีที่สุด และ ผลลัพธ์ที่ได้ ก็คือ เนื้อหาที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน หรือ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคุณจะขายสินค้า คุณต้องเขียน (Copywriting) ให้ชัดเจน ไม่ยุ่งยากซับซ้อน นั่นเองครับ
ในส่วนของการสื่อสารสินค้าที่คุณจะขายนั้น มีหลักการพื้นฐาน คือ คุณจะต้องเน้นไปที่ ประโยชน์ (Benefits) ให้มากกว่า คุณสมบัติ (Features) ในตัวสินค้า เพราะ ประโยชน์ คือ สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ ส่วน คุณสมบัติ คือ สิ่งที่สินค้านั้นมี
ในคอนเทนต์ส่วนนี้จะประกอบได้ 2 เรื่อง
1.การสื่อสารเรื่องสินค้า : เพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่าสินค้าของคุณ คือ อะไร ทำอะไรได้ พูดง่าย ๆ คือ มีเรื่องอะไรที่เขาควรจะรู้บ้าง
2.การจูงใจและโน้มน้าว : เพื่อพาผู้อ่านให้ตัดสินใจซื้อสินค้าที่คุณขาย จึงควรเน้นไปที่ประโยชน์ที่เขาจะได้รับ
เทคนิคที่ 4 : ปิดการขายให้ทรงพลัง (Offer)
เมื่อคุณทำทั้ง 3 เทคนิคข้างบนมาได้ดี คุณจะปิดการขายได้ง่ายมาก (แถมไม่ทำให้คุณรู้สึกกลัวที่จะปิดการขายด้วย) ในส่วนนี้เราเรียกว่าการทำ Offer ผ่าน Call-To-Action ท้ายคอนเทนต์ เมื่อผู้อ่าน อ่านมาถึงจุดนี้ สิ่งที่คุณเขียนไว้ จะจูงใจให้เขาต้องซื้อจากคุณ เพราะ เขาจะได้รับประโยชน์ที่คุ้มค่าจากสินค้าที่คุณขาย ซึ่งก็จะขึ้นกับแต่ละธุรกิจ ขึ้นกับขั้นการขายของคุณว่าคุณกำลังขายอะไรให้เขาอยู่ครับ
คำแนะนำเบื้องต้นของผม ในส่วนนี้คือ “ทำให้ง่ายเข้าไว้ อย่าทำให้ยากและซับซ้อน” เพราะ ถ้าคุณทำทุกอย่างมาดีหมด แต่คุณมาตกม้าตายในช่วงปิดการขาย การยื่นข้อเสนอให้กับคนที่กำลังจะเป็นลูกค้าของคุณเนี่ย บอกได้เลยว่า น่าเสียดายมาก ๆ ครับ
ลองนำ 4 เทคนิคนี้ ไปเช็คดูนะครับ ว่าคุณตกหล่นตรงไหนหรือเปล่า มีตรงไหนที่ต้องแก้ไขไหม ผมเชื่อว่าถ้าคุณได้ลองนำเทคนิค วิธีคิดที่ผมเขียนนี้ไปปรับใช้ คอนเทนต์ขายของคุณจะดีขึ้นแน่นอนครับ
สุดท้ายนี้ขออวยพรให้คุณขายดี กิจการรุ่งเรืองยิ่งขึ้นนะครับ 🙂
ถ้าคุณต้องการเรียนรู้วิธีการเขียนขายให้ทำเงิน ไม่ว่าคุณจะเขียนโพสต์ขายเพื่อยิงแอด เขียนขายให้กับลูกค้าของคุณ เขียนขายบนเซลล์เพจ หรือ แม้แต่เขียนขายบน Marketplace หนังสืออีบุ๊คเล่มนี้มีคำตอบให้กับคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม กดที่นี่ได้เลยครับ